Xpeng P7+ พร้อมจำหน่าย จอดรออยู่ที่ลานจอดโรงงานเป็นจำนวนมากก่อนที่จะเริ่มจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้ รถไฟฟ้าลิฟท์แบ็ครุ่นนี้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวรถซีดานรุ่น Mona M03
Xpeng เป็นหนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพ NEV ที่เก่าแก่ที่สุดของจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 อย่างไรก็ตามยอดขายในจีนยังไม่เป็นที่น่าพอใจในระยะหลัง จากการวิจัยของ CarNewsChina พบว่า Xpeng ทำได้เพียง 34.3% ของเป้ายอดขายประจำปี ซึ่งต่ำกว่าอัตราการบรรลุเป้าหมายเฉลี่ย 12.7% ตอนนี้ Xpeng ต้องการปรับปรุงสถานการณ์ด้วยรถรุ่นใหม่ ได้แก่ Mona M03 ที่เพิ่งเปิดตัว และ P7+ ที่กำลังจะมาถึง
Xpeng P7+ จอดเรียงรายรอที่ตัวแทนจำหน่าย

ล่าสุดมีภาพหลุดเผยแพร่ทางออนไลน์ แสดงให้เห็นรถยนต์ P7+ รุ่นลิฟท์แบ็คจำนวนมาก จอดอยู่ที่ลานจอดรถใกล้กับโรงงานของ Xpeng จะพบว่ามี 2 สี ได้แก่ สีเงินและสีเขียวอ่อน ก่อนหน้านี้กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ได้เปิดเผย P7+ ยังมีอีกสีคือสีม่วงที่ยื่นขอใบอนุญาตจำหน่าย

Xpeng เริ่มสะสมรถยนต์ P7+ ไว้ในสต็อกก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีกำหนดในเดือนนี้ นี่ถือเป็นการดำเนินการที่สมเหตุสมผล เมื่อพิจารณาว่า Xpeng ไม่สามารถตอบสนองคำสั่งซื้อของ Mona M03 ที่เพิ่งเปิดตัวได้ทัน รถยนต์ P7+ ทุกคันที่พบมีหลังคาสีดำและล้อแม็กขนาดใหญ่ ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับรุ่นย่อยของ Xpeng P7+ แต่คาดว่ารถยนต์ที่พบน่าจะเป็นรุ่นท็อป ซึ่งอาจนำไปใช้สำหรับการสาธิตที่โชว์รูมของแบรนด์
Xpeng P7+ : ลิฟท์แบ็คสุดล้ำ ดีไซน์โฉบเฉี่ยว ประหยัดพลังงาน
Xpeng P7+ เป็นรถไฟฟ้าแบบลิฟท์แบ็คที่มีรูปทรงเพรียวบาง โดดเด่นด้วยมิติตัวถังขนาดใหญ่ 5056/1937/1512 มม. และระยะฐานล้อ 3000 มม. ซึ่งยาวกว่ารถซีดาน P7i ถึง 168 มม. ออกแบบเส้น beltline ต่ำและหลังคาลาดเอียงช่วยปรับปรุงค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ที่ 11 kWh/100 km ซึ่งต่ำกว่า Tesla Model 3 ที่มีอัตราสิ้นเปลือง 14.4 kWh/100 km
Xpeng P7+ : มอเตอร์เดี่ยว 2 ขนาด แบตเตอรี่ 2 ความจุ

จากข้อมูล Xpeng P7+ จะมีมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ รุ่นเริ่มต้นกำลังสูงสุด 180 kW (241 hp) และรุ่นที่สูงกว่าที่ 230 kW (308 hp) มีแบตเตอรี่ LFP ให้เลือก 2 ความจุ ได้แก่ ขนาด 60.7 kWh ให้ระยะการขับขี่ 575 km (CLTC) และ 76.3 kWh ให้ระยะการขับขี่ 685 km (CLTC)
ติดตามเราได้อีกหนึ่งช่องทาง Facebook