หน่วยงานจีนจับตาแบนมือจับซ่อน หลังอุบัติเหตุและคำร้องเรียนเพิ่มขึ้น

หน่วยงานจีนจับตาแบนมือจับซ่อน และผลกระทบต่อรถพลังงานใหม่ (NEVs)

หน่วยงานกำกับดูแลของจีนมีรายงานว่าเตรียมออกมาตรการห้ามใช้มือจับประตูรถแบบซ่อนเก็บได้เต็มรูปแบบ (Fully Retractable) ทั่วทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากพบปัญหาด้านความปลอดภัยและข้อบกพร่องในการใช้งาน หากมาตรการนี้ถูกบังคับใช้จริง จะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญต่อการออกแบบรถยนต์ โดยเฉพาะกลุ่มรถพลังงานใหม่ (NEVs) ที่นิยมใช้มือจับแบบนี้อย่างแพร่หลาย

ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านวิจัยและพัฒนาของผู้ผลิตรถยนต์ที่ให้สัมภาษณ์กับ Mingjing Pro เมื่อวันที่ 4 กันยายน ระบุว่ากำลังมีการหารือถึงกฎระเบียบใหม่ที่จะห้ามมือจับประตูแบบซ่อนเก็บได้เต็มรูปแบบ ขณะที่มือจับแบบกึ่งซ่อนและแบบดั้งเดิมยังสามารถใช้งานได้ แต่จำเป็นต้องมีระบบกลไกสำรองเพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานมีความน่าเชื่อถือ

รายงานล่าสุดชี้ว่าร่างมาตรฐานบังคับคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนนี้ โดยข้อเสนอแนะปัจจุบันคือการห้ามใช้มือจับแบบซ่อนเต็มรูปแบบ พร้อมให้ระยะเวลาผ่อนผัน 1 ปี ก่อนเริ่มบังคับใช้จริงในเดือนกรกฎาคม 2570 หมายความว่ารถใหม่ที่จำหน่ายในจีนหลังจากนั้นจะไม่สามารถใช้ดีไซน์นี้ได้อีก ทั้งยังมีการพูดคุยถึงระบบปลดล็อกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุ

ข่าวดังกล่าวสร้างแรงสั่นสะเทือนในอุตสาหกรรม ผู้ผลิตบางรายระบุว่าได้รับการแจ้งเตรียมปรับโครงการแล้ว แม้ยังอยู่ระหว่างการหารือ แต่ผลกระทบมีโอกาสจะกว้างขวางมาก การออกกฎนี้สะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับมือจับแบบซ่อน ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าการใช้งานจริงไม่ตรงตามที่คาดหวัง

เส้นทางรุ่งโรจน์และร่วงโรยของเทรนด์ดีไซน์

มือจับแบบซ่อนเต็มรูปแบบเคยได้รับความนิยมในรถพลังงานใหม่ด้วยภาพลักษณ์ทันสมัยและประโยชน์ด้านอากาศพลศาสตร์ แต่การคำนวณพบว่าการลดแรงเสียดทานเพียง 0.01 Cd แปลว่าประหยัดพลังงานเพียงราว 0.6 kWh ต่อการขับ 100 กม. ประโยชน์ด้านต้นทุนไฟฟ้าแทบไม่มีนัยสำคัญ ขณะที่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากมอเตอร์และโครงสร้าง 7–8 กก. ยังอาจลบล้างผลดีทั้งหมด

ปัญหาสำคัญคือความปลอดภัยและความทนทาน มือจับไฟฟ้ามีราคาแพงกว่ามือจับกลไกถึง 3 เท่า แต่มีอัตราความเสียหายสูงกว่า 8 เท่า ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายซ่อมแซมสูงขึ้น บางค่ายรถรายงานว่าการเสียหายของมือจับคิดเป็น 12% ของการซ่อมทั้งหมด และมักต้องเปลี่ยนทั้งชุด นอกจากนี้ ยังมีกรณีอุบัติเหตุที่ผู้โดยสารไม่สามารถเปิดประตูได้จากไฟดับหรือไฟฟ้าลัดวงจร รวมถึงเหตุการณ์ในฤดูหนาวและฝนตกหนักที่ทำให้กลไกไม่ทำงาน

ข้อมูลจากการทดสอบชนของ C-IASI ชี้ว่ารถที่ใช้มือจับไฟฟ้ามีอัตราสำเร็จในการเปิดประตูเพียง 67% ในการชนด้านข้าง ขณะที่มือจับกลไกทำได้ถึง 98% ระบบ NAIS ยังรายงานว่าอุบัติเหตุที่เกิดจากปัญหามือจับเพิ่มขึ้น 47% ในปี 2567 โดยมือจับแบบซ่อนคิดเป็น 82% ของกรณีเหล่านี้ ขณะที่สมาคมผู้บริโภครายงานว่าการร้องเรียนกรณีมือเด็กถูกหนีบเพิ่มขึ้น 132% รวมถึงบางกรณีที่ร้ายแรงถึงกระดูกหัก

หน่วยงานจีนจับตาแบนมือจับซ่อน และผลกระทบต่อรถพลังงานใหม่ (NEVs)

บริษัทรถบางรายหันไปเลือกใช้มือจับแบบกึ่งซ่อนแทน เช่น Volkswagen ที่เน้นสมดุลระหว่างดีไซน์และความปลอดภัย FAW–Audi ก็ใช้มือจับแบบกึ่งซ่อนพร้อมระบบกลไกฉุกเฉิน Great Wall Motor (GWM)เองออกมาวิจารณ์ว่ามือจับแบบซ่อน “หนัก ซีลไม่ดี มีเสียงดัง และอันตรายด้านความปลอดภัย”

การแก้ไขกฎมาตรฐานนี้เริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 เมื่อกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) ประกาศทบทวนมาตรฐานความปลอดภัยของมือจับประตูรถยนต์ โดยถือเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันด้านกฎระเบียบเพื่อยกระดับความปลอดภัยในภาพรวม นอกจากนี้ยังมีการถกเถียงถึงเทรนด์ดีไซน์อื่น ๆ เช่น การตัดปุ่มกายภาพแล้วใช้จอสัมผัสแทน หรือกระจกมองข้างอิเล็กทรอนิกส์ ที่ถูกวิจารณ์ด้านความเสี่ยงเช่นกัน

ในระดับสากล Euro NCAP ประกาศว่า ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป รถที่รวมฟังก์ชันสำคัญอย่างไฟเลี้ยว ไฟฉุกเฉิน แตร ที่ปัดน้ำฝน และระบบโทรฉุกเฉินไว้ในจอสัมผัสโดยไม่มีปุ่มจริง จะไม่สามารถได้คะแนนความปลอดภัยสูงสุด 5 ดาว


สำหรับเพื่อนๆที่มองหาประกันภัยสำหรับรถยนต์ Unlimit Insure
อย่าพลาด! 🏃‍♂️ ติดต่อเราวันนี้ ราคาดีแน่นอน 💬 Inbox มาคุยกันได้เลย!
ทางไลน์ 👉 https://bit.ly/4f3mkTv
ทางเฟสบุ๊กค์ 👉 www.facebook.com/Unlimit.th

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *