All-New MG4 เปิดตัว เริ่ม 3.76 แสนบาท พร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่

All-New MG4 เปิดตัว เริ่ม 3.76 แสนบาท พร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่

All-New MG4 เปิดตัว เคาะราคาเริ่ม 3.76 แสนบาท สรุปราคา และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Semi-Solid-State อ่านต่อได้เลย

วันนี้ (5 สิงหาคม 2568) SAIC Motor ได้เปิดให้สั่งจองล่วงหน้า (Pre-sale) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแฮทช์แบ็ค MG4 รุ่นใหม่ที่ได้รับการอัปเกรดอย่างครอบคลุม ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 73800 หยวน (ประมาณ 376000 บาท) โดยมี 4 รุ่นย่อยให้เลือก และจะมีการประกาศราคารุ่นพิเศษที่ใช้แบตเตอรี่ Semi-Solid-State ในเดือนกันยายน พร้อมส่งมอบภายในสิ้นปีนี้

Model VersionPre-Sale Price (yuen)Approximate Price (USD)
Comfort (with 437 km range)73,800approx. 10,100 USD
Ease (with 437 km range)81,800approx. 11,200 USD
Freedom (with 437 km range)90,800approx. 12,400 USD
Smart (with 530 km range)105,800approx. 14,400 USD
Semi-Solid Battery VersionPrice to be announced at September’s launch

ชูจุดเด่นด้วยแบตเตอรี่ Semi-Solid-State ครั้งแรกในรถยนต์ที่ผลิตในวงกว้าง

MG4 ถือเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นแรกๆ ของโลกที่นำแบตเตอรี่ Semi-Solid-State มาใช้ในการผลิตเชิงพาณิชย์ SAIC รายงานว่าแบตเตอรี่ชนิดนี้ผ่านการทดสอบความปลอดภัยขั้นสูงด้วยการเจาะทะลุ (needle penetration tests) โดยไม่มีการลุกไหม้หรือเกิดควัน และยังแสดงประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในสภาวะอุณหภูมิต่ำ นวัตกรรมนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้สูงขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคในตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก

เบื้องหลังนวัตกรรมนี้คือการลงทุนและการพัฒนาวัสดุขั้นสูง โดย SAIC ได้ลงทุนไปประมาณ 500 ล้านหยวน (ประมาณ 2.55 พันล้านบาท) เพื่อพัฒนาโลหะผสมอะลูมิเนียม-แรร์เอิร์ธสำหรับโครงสร้างแบตเตอรี่โดยเฉพาะ

เทคโนโลยีและระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ

ภายในของ MG4 ใหม่ มาพร้อมหน้าจอสัมผัสแบบลอยตัวขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 2.5K ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155 และเปิดตัวระบบ MG×Oppo Smart Mobility เป็นครั้งแรก ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์และรถยนต์เป็นไปอย่างราบรื่น รองรับฟังก์ชันกุญแจดิจิทัล (Digital Key) คำสั่งเสียง AI การแสดงผลหน้าจอโทรศัพท์บนจอรถ และทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ทุกค่าย นอกจากนี้ยังรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-the-air (OTA) เพื่อเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ ในอนาคต เช่น การจอดรถระยะไกลผ่านโทรศัพท์

สมรรถนะ ระยะทาง และการชาร์จ

MG4 ใช้มอเตอร์ซิงโครนัสแบบแม่เหล็กถาวร ให้กำลัง 120 กิโลวัตต์ และแรงบิด 250 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ 160 กม./ชม. มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ให้เลือก 2 ขนาด ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 437 กม. (42.8 kWh) และ 530 กม. (53.9 kWh) ตามมาตรฐาน CLTC การชาร์จไฟจาก 30% ถึง 80% ใช้เวลาประมาณ 20 นาที และมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ยเพียง 10.4 kWh ต่อ 100 กม.

ดีไซน์และมิติตัวถังที่ปรับปรุงใหม่

MG4 ใหม่มีขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อน โดยมีความยาว 4395/1842/1551 มม. และมีระยะฐานล้อ 2750 มม. การออกแบบภายนอกได้รับการปรับปรุงใหม่ ทั้งโลโก้ MG แบบมีไฟส่องสว่างด้านหลัง ไฟท้าย LED รูปทรงลูกศร และมีสีตัวถังให้เลือก 6 สี พร้อมล้อขนาด 16 และ 17 นิ้ว

ยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบาย

MG ใช้เทคโนโลยีการติดตั้งแบตเตอรี่แบบ Cell-to-Body (CTB) ทำให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารมากขึ้นและตัวถังมีความแข็งแรงสูง โดย MG อ้างว่ามีค่าความทนทานต่อการบิดตัวถึง 31000 นิวตันเมตร/องศา แข็งแกร่งกว่ารถ SUV หรูบางรุ่น ชุดแบตเตอรี่ผ่านมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 และ IP69K และยังมีการรับประกันตลอดอายุการใช้งานสำหรับระบบขับเคลื่อน

ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุหนังสังเคราะห์เกรดเดียวกับผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก มีช่องเก็บของมากถึง 30 จุด เบาะนั่งคู่หน้ามาพร้อมระบบทำความร้อนและระบายอากาศ ส่วนเบาะหลังสามารถเอนได้ถึง 27 องศา และมีหลังคาพาโนรามิกซันรูฟเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

สำหรับฟังก์ชันความปลอดภัยและความสะดวกสบายอื่นๆ ประกอบด้วย:

  • ระบบช่วยตรวจจับมุมอับสายตาขณะฝนตกและเวลากลางคืน
  • กล้อง 360 องศารอบคันพร้อมมุมมองใต้ท้องรถแบบโปร่งใส
  • ระบบจอดรถอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชันเรียกเข้า-ออกจากที่จอด
  • พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ 471 ลิตร และมีช่องเก็บของใต้พื้นอีก 98 ลิตร

สำหรับเพื่อนๆที่มองหาประกันภัยสำหรับรถยนต์ Unlimit Insure
อย่าพลาด! 🏃‍♂️ ติดต่อเราวันนี้ ราคาดีแน่นอน 💬 Inbox มาคุยกันได้เลย!
ทางไลน์ 👉 https://bit.ly/4f3mkTv
ทางเฟสบุ๊กค์ 👉 www.facebook.com/Unlimit.th


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *