เล็กพริกขี้หนู Smart #3 รุ่นปี 2026 เปิดตัวในจีน ราคาเริ่มต้น 8.4 แสนบาท
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา Smart #3 รุ่นปี 2026 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีน โดยเป็นการปรับโฉมเล็กน้อย (Facelift) จากรุ่นเดิมที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 มีการปรับอัปเกรดการตั้งค่าและฟังก์ชันบางส่วน


สำหรับราคาจำหน่าย รุ่นมาตรฐานมีช่วงราคาอยู่ที่ 164,900 – 209,900 หยวน หรือ 841,000 – 1.07 ล้านบาท ในขณะที่รุ่นสมรรถนะสูงอย่าง Brabus edition มีราคาอยู่ที่ 259,900 หยวน หรือ 1.32 ล้านบาท



สำหรับรุ่น Brabus edition จะยังคงมาพร้อมชุดแต่งภายนอกสไตล์สปอร์ตที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงคาลิปเปอร์เบรกสีแดง


สำหรับ Compact SUV มิติตัวถังของรถยังคงเดิมทุกประการ คือมีความยาว 4400/1844/1556 มม. และมีระยะฐานล้อ 2785 มม.
ดีไซน์และมิติตัวถัง
รถรุ่นใหม่ยังคงใช้ปรัชญาการออกแบบ “sensibility and sharpness” (ความรู้สึกไวและความคมชัด) เช่นเดิม ทั้งนี้การดีไซน์โดยรวมยังคงใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้า แต่มีจุดสังเกตที่เปลี่ยนไปคือ การย้ายตำแหน่งโลโก้ Smart จากเสา C ไปไว้ที่บังโคลนหน้า

รายละเอียดภายนอก
ในส่วนของล้อ รถรุ่นใหม่จะมาพร้อมล้ออัลลอยลาย 5 ก้าน ขนาด 19 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และมีล้อขนาด 20 นิ้วเป็นตัวเลือกเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมาพร้อมหลังคา Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ถึง 1.6 ตารางเมตร และมีการเพิ่มสีตัวถังใหม่ 2 สี คือ Ceramic Cream และ Electron Blue ทำให้มีสีให้เลือกทั้งหมด 8 สี






ขุมพลังและแบตเตอรี่
Smart #3 ใหม่ มีระบบขับเคลื่อนและแบตเตอรี่ให้เลือกหลากหลาย ดังนี้

- รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD): ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 200 kW (268 แรงม้า) แรงบิด 343 Nm มีแบตเตอรี่ให้เลือก 2 ขนาด คือ:
- แบตเตอรี่ LFP 49 kWh: วิ่งได้ไกล 415 กม.
- แบตเตอรี่ Ternary Lithium 66 kWh: วิ่งได้ไกล 555 กม. (อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่เร็วที่สุดคือ 5.4 วินาที)
- รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD): เพิ่มมอเตอร์ด้านหน้า 115 kW (154 แรงม้า) ทำงานร่วมกับมอเตอร์หลัง ใช้แบตเตอรี่ Ternary Lithium 66 kWh วิ่งได้ไกล 520 กม. ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที
- Brabus Edition (AWD): ใช้ขุมพลังเดียวกับรุ่น AWD แต่ปรับจูนให้มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที


สำหรับการชาร์จ รองรับการชาร์จเร็วแบบ DC ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีในการชาร์จจาก 10% ถึง 80%

ความแตกต่างของรุ่น Brabus: ภายในจะตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พวงมาลัยหุ้มด้วยหนังกลับ (Suede) แทนหนังปกติ, โลโก้ Brabus บนพวงมาลัยสามารถเรืองแสงได้ และพนักพิงศีรษะมีการออกแบบที่เป็นธีมของ Brabus โดยเฉพาะ
เทคโนโลยีและภายในห้องโดยสาร
ภายในห้องโดยสารยังคงใช้เลย์เอาต์แบบ T-shaped ที่คุ้นเคย พร้อมช่องแอร์ทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ แต่มีการอัปเกรดเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ได้แก่


- ระบบช่วยขับขี่: รุ่นท็อปมาพร้อมเซ็นเซอร์ 23 จุด (รุ่นอื่น 18 จุด) เพื่อรองรับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง เช่น ระบบช่วยจอด ระบบเตือนการออกนอกเลน ระบบช่วยเปลี่ยนเลน ระบบช่วยขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัด และระบบเตือนมุมอับสายตา
- จอแสดงผล: ประกอบด้วยหน้าปัดดิจิทัลขนาด 9.2 นิ้ว หน้าจอ W-HUD ขนาด 10 นิ้ว และหน้าจอกลางขนาด 12.8 นิ้ว ซึ่งทั้งหมดทำงานด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155

- ระบบความบันเทิง: ทุกรุ่นย่อยติดตั้งลำโพง Beats 13 ตำแหน่ง และไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Lights) ที่ปรับได้ 64 สี
📍 ติดตามเราได้อีกหนึ่งช่องทาง Facebook
www.facebook.com/edriv.th
www.facebook.com/edrivthailand
📍 พื้นที่พูดคุยสำหรับกลุ่มคนรัก BYD
https://facebook.com/groups/bydthailand/
https://facebook.com/groups/dolphinthailand
https://facebook.com/groups/byddolphinthailandclub/
https://facebook.com/groups/atto3clubthailand/
https://facebook.com/groups/bydsealthailand
สำหรับเพื่อนๆที่มองหาประกันภัยสำหรับรถยนต์
อย่าพลาด! ติดต่อเราวันนี้ ราคาดีแน่นอน
Inbox มาคุยกันได้เลย!
ทางไลน์ 👉 https://bit.ly/4f3mkTv
ทางเฟสบุ๊กค์ 👉 www.facebook.com/Unlimit.th