MG Cyberster Red Top Edition จะมีสเปกต่างๆเหมือนกับ Cyberster AWD 520 ตัวท็อป จากที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคมด้วยราคา 365,800 CNY (1.83 ล้านบาท) รุ่นพิเศษนี้เพิ่มเติมคือมีสีขาวมุกอันเป็นเอกลักษณ์ และหลังคาเปิดประทุนสีแดงสดด้วยผ้าสั่งผลิตพิเศษนำเข้า ทำให้เจ้ารุ่นพิเศษนี้แลดูคล้ายรถสปอร์ตคลาสสิกของ MG ที่จริงแล้วทาง MG ผลิตเพื่อเป็นการยกย่องรุ่นเก๋าๆอย่าง MG-A (1956), MG-B (1967), and MG Magnette (1958) และมีเพียง 100 คัน เท่านั้น
Cyberster เป็นรถยนต์ระบบไฟฟ้าล้วนแบบเปิดประทุน หลังคาสามารถเปิด/ปิดได้ภายใน 10 วินาที *เมื่อขับด้วยความเร็วต่ำกว่า 50 km/h มาพร้อมกับประตูแบบ Scissor Doors (Lambo door style) ที่ปกติเราจะไม่ค่อยได้เห็นในรถสปอร์ตประเภทนี้บ่อยนัก อีกทั้งยังใช้เบรก Brembo พร้อมคาลิปเปอร์แบบคงที่สี่ลูกสูบและโรลบาร์พร้อมสำหรับมาตรการด้านความปลอดภัยอีกด้วย การปรับแต่งแชสซีของ Cyberster ได้รับการพัฒนาโดยทีม DANISI จากอิตาลี ซึ่งเคยร่วมงานกับทีม F1 ของ Ferrari ส่วนระบบช่วงล่างแบบปีกนกคู่ด้านหน้า (front double wishbone) และระบบกัน -สะเทือนอิสระแบบมัลติลิงค์ที่ด้านหลัง (rear multi-link independent suspensions)
สเปกของ MG Cyberster Red Top Edition
- ขนาด: 4,534/1,913/1,329 mm (ใหญ่กว่า Mazda Miata (MX5) เพียงเล็กน้อย )
- ระยะฐานล้อ: 2,690 mm
- การกระจายน้ำหนัก: 49:51
- ค่า drag coefficient: 0.269cd
- จุดศูนย์ถ่วง: 440 mm
- มอเตอร์ไฟฟ้า: 400 kW (จาก Cyberster AWD 520 รุ่นท็อป )
- อัตราความเร่งจาก 0 – 100 km/h: 3.2 sec
- ขนาดแบตเตอรี่ 77 kWh ให้ระยะขับขับขี่ CLCT 520 km
ภายในใช้เบาะหนัง Nappa และแผงกลางคาร์บอนไฟเบอร์ ตำแหน่งที่นั่งคนขับด้านหลังพวงมาลัย ระกอบด้วยหน้าจอ LCD 3 จุด แลดูคล้ายวิในดีโอเกมเลยทีเดียว การประมวลผลใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 8155 ซึ่งดูอาจตามหลังแบรนด์อื่นสักหน่อย แต่ระบบเสียงของ Bose การันตีคุณภาพแน่นอน
เกี่ยวกับ MG
◾MG มีรากฐานมาจากเมืองอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1924 แต่ปัจจุบันอยู่ภายใต้กรรมสิทธิ์ของ SAIC Motor Corporation
◾MG Cyberster เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Goodwood Festival of Speed ในเดือนกรกฎาคม 2023 และประกาศตัวอย่างเป็นทางการว่าจะรับช่วงต่อจาก Porsche ในฐานะ ‘Central Display Partner’ (ผู้สนับสนุนหลัก)
◾MG Cyberster สามารถทำยอดขาย 676 คันภายใน 100 วันแรกที่เปิดตัวในประเทศจีน ทำให้เป็นหนึ่งในรถสปอร์ตที่ขายดีที่สุด 3 เดือนติดต่อกัน
◾ในปี 2023 MG ทำยอดขายรถยนต์รวมทั่วโลก 840,000 คัน จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
◾ในปี 2024 นี้ MG ตั้งเป้าจะทำยอดให้ได้ 1,000,000 คัน เพื่อเฉลองครบ 100 ปี ของแบรนด์อีกด้วย
1