
FAW-Toyota bZ5 มาแล้ว! ผสานพลัง Blade battery BYD เริ่มการผลิตเต็มรูปแบบ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ FAW-Toyota ได้เริ่มทยอยออกจากสายการผลิต ณ โรงงานผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ของบริษัทร่วมทุนในนครเทียนจิน ประเทศจีน โดย bZ5 คันนี้ยังถือเป็นรถยนต์คันที่ 12 ล้านที่ผลิตจากโรงงานแห่งนี้อีกด้วย สำหรับกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน 2568 พร้อมกับตัวเลือกสองระยะขับขี่ (CLTC) แบบ 550 กิโลเมตร และ 630 กิโลเมตร
การสั่งซื้อล่วงหน้าได้เริ่มต้นขึ้นแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา โดยรุ่นพื้นฐานระยะทาง 550 กิโลเมตร ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 130,000 หยวน หรือประมาณ 600,000 บาท ขณะที่รุ่นพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง L2 (ซึ่งมีระยะทางขับขี่ 550 กิโลเมตรเช่นกัน) มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 160,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยราว 740,000 บาท


ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายนปีนี้ โรงงานผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ของ FAW-Toyota สามารถผลิตรถยนต์ได้จำนวนทั้งสิ้น 35,900 คัน คิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน


รถยนต์ FAW-Toyota bZ5 รุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม e-TNGA (Toyota New Global Architecture) โดยมีขนาดตัวถัง 4780/1866/1510 มม. ระยะฐานล้อ 2880 มม. มาพร้อมล้อขนาด 21 นิ้ว

ด้านพละกำลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าที่ผลิตโดย FinDreams เป็นบริษัทในเครือของ BYD ให้กำลังสูงสุด 200 kW (268 แรงม้า) ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟต BYD Blade มีให้เลือกสองขนาดความจุ ได้แก่ 65.28 kWh ให้ระยะทางขับขี่ 550 กิโลเมตร (CLTC) และ 73.984 kWh ให้ระยะขับขี่ 630 กิโลเมตร (CLTC)

ด้านความปลอดภัย FAW-Toyota bZ5 มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงสำหรับการใช้งานในเมือง Momenta 5.0 L2 ประกอบด้วยเซ็นเซอร์จำนวน 33 ตัว แบ่งเป็นเซ็นเซอร์ LiDAR ที่ติดตั้งบนหลังคา เรดาร์แบบคลื่นมิลลิเมตรจำนวน 5 ตัว และกล้องอีก 7 ตัว ทั้งนี้มีการระบุว่าระบบดังกล่าวรองรับฟังก์ชัน Navigate on Autopilot (NOA) มากกว่า 30 รายการ เช่น ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ระบบจอดรถจากระยะไกล และการทำงานร่วมกับระบบ Toyota Safety Sense

ภายในห้องโดยสารมีการติดตั้งถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่งเพื่อความปลอดภัยที่เหนือกว่า

เมื่อมองเข้าไปในห้องคนขับ จะพบการตกแต่งภายในที่เน้นโทนสีแดงอย่างโดดเด่น เข้ากันกับหน้าจอกลางแบบลอยตัวขนาด 15.6 นิ้ว และแผงหน้าปัด LCD เต็มรูปแบบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังมีหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาด 1.44 ตารางเมตร ซึ่งทางผู้ผลิตอ้างว่าสามารถป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้ถึง 99.98% และรังสีอินฟราเรดได้ 99.3%



ระบบเครื่องเสียงประกอบด้วยลำโพงจาก JBL จำนวน 10 ตำแหน่ง ส่วนเทคโนโลยีเด่นอื่นๆ ภายในห้องโดยสาร ได้แก่ ระบบจดจำใบหน้าด้วย AI ฟังก์ชันวิดีโอคอลภายในรถ และระบบไฟสร้างบรรยากาศที่ปรับได้ถึง 256 สีเลยทีเดียว ว้าว!
สำหรับเพื่อนๆที่มองหาประกันภัยสำหรับรถยนต์
อย่าพลาด! ติดต่อเราวันนี้ ราคาดีแน่นอน
Inbox มาคุยกันได้เลย!
ทางไลน์ 👉 https://bit.ly/4f3mkTv
ทางเฟสบุ๊กค์ 👉 www.facebook.com/Unlimit.th
📍 ติดตามเราได้อีกหนึ่งช่องทาง Facebook
www.facebook.com/edriv.th
www.facebook.com/edrivthailand
📍 พื้นที่พูดคุยสำหรับกลุ่มคนรัก BYD
https://facebook.com/groups/bydthailand/
https://facebook.com/groups/dolphinthailand
https://facebook.com/groups/byddolphinthailandclub/
https://facebook.com/groups/atto3clubthailand/
https://facebook.com/groups/bydsealthailand