All-New MG4 เดินสายการผลิตแล้ว เตรียมเปิดตัวสิงหาคมนี้
SAIC Motor ได้เริ่มเดินสายการผลิต MG4 แฮทช์แบ็กไฟฟ้าโฉมใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว โดยรถคันแรกได้ออกจากสายการผลิตที่โรงงานในเมืองหนานจิงเป็นที่เรียบร้อย มีกำหนดการเปิดตัวสู่ตลาดอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ คาดว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลสเปคทั้งหมดและราคาจำหน่ายที่แน่นอนในวันเปิดตัว
MG4 โฉมใหม่นี้มาพร้อมดีไซน์ที่สดใหม่ มิติตัวถังที่ปรับปรุงใหม่ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น โดยข้อมูลจากเอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแลได้ยืนยันว่า รถรุ่นนี้จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 120 kW ติดตั้งที่ด้านหลัง ซึ่งยังคงรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง (Rear-Wheel Drive)เหมือนเดิม

ในส่วนของระบบช่วงล่าง จะยังคงใช้รูปแบบเดิมจากรุ่นปัจจุบัน คือช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระ ไฟว์ลิงก์ (Five-link)
มิติตัวถังใหญ่ขึ้น เทียบชั้นคู่แข่ง
สำหรับมิติตัวถัง MG4 ใหม่มีขนาดใหญ่ขึ้นในทุกมิติ โดยมีความยาว 4395/1842/1551 มม. และมีระยะฐานล้อ 2750 มม. การเพิ่มความยาวและระยะฐานล้อนี้คาดว่าจะช่วยให้มีพื้นที่ห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางขึ้น และทำให้มีขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าคู่แข่งสำคัญอย่าง BYD Dolphin เล็กน้อย
ดีไซน์ใหม่ ได้แรงบันดาลใจจาก Cyberster
หนึ่งในไฮไลท์ด้านดีไซน์ที่เพิ่มเข้ามาคือ โลโก้ MG ด้านหน้าแบบเรืองแสง ส่วนการออกแบบด้านหน้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถสปอร์ตโรดสเตอร์ไฟฟ้าอย่าง MG Cyberster จะเห็นได้จากชุดไฟหน้าที่แยกส่วนและกันชนหน้าที่มีการออกแบบให้ดูมีมิติมากขึ้น นอกจากนี้ รูปทรงโดยรวมยังเน้นให้ตัวรถดูกว้างและมีระยะยื่น (Overhang) ที่สั้นลง เพื่อเสริมสร้างความรู้สึกมั่นคงและโดดเด่นบนท้องถนน

เพิ่ม 2 สีใหม่ พร้อมห้องโดยสารอัจฉริยะจาก OPPO
MG ได้เปิดตัวสีภายนอกใหม่ 2 สี ได้แก่ สีม่วง Donglai Purple ที่ให้เอฟเฟกต์สีมุกเปลี่ยนไปตามมุมแสง และ สีเขียว Qingbo Green ที่ใช้เม็ดสีมุกนำเข้าจากยุโรปเพื่อเพิ่มความคมชัดและความลึกของสี
ภายในห้องโดยสารจะมีการเปิดตัวระบบ MG×OPPO cockpit system เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาร่วมกันเพื่อเชื่อมต่อฟังก์ชันของสมาร์ทโฟนเข้ากับระบบของรถยนต์ได้อย่างลงตัว โดย MG ระบุว่าระบบนี้รองรับทั้งการสั่งงานด้วยเสียง การซิงค์แอปพลิเคชัน การส่งต่อระบบนำทางด้วยท่าทาง (Gesture-based navigation) และบริการเชื่อมต่ออื่นๆ อีกมากมาย


ลุ้นแบตเตอรี่ Semi-Solid-State วิ่งไกล 800 กม.
แม้ว่าผู้อำนวยการของแบรนด์จะเคยเกริ่นถึงความเป็นไปได้ในการนำ แบตเตอรี่กึ่งโซลิดสเตต (Semi-Solid-State Battery) ที่อาจให้ระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 800 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน CLTC) มาใช้ แต่ทาง SAIC ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลจำเพาะของแบตเตอรี่หรือระยะทางวิ่งอย่างเป็นทางการ
สำหรับเพื่อนๆที่มองหาประกันภัยสำหรับรถยนต์
อย่าพลาด! ติดต่อเราวันนี้ ราคาดีแน่นอน
Inbox มาคุยกันได้เลย!
ทางไลน์ 👉 https://bit.ly/4f3mkTv
ทางเฟสบุ๊กค์ 👉 www.facebook.com/Unlimit.th
📍 ติดตามเราได้อีกหนึ่งช่องทาง Facebook
www.facebook.com/edriv.th
www.facebook.com/edrivthailand
📍 พื้นที่พูดคุยสำหรับกลุ่มคนรัก BYD
https://facebook.com/groups/bydthailand/
https://facebook.com/groups/dolphinthailand
https://facebook.com/groups/byddolphinthailandclub/
https://facebook.com/groups/atto3clubthailand/
https://facebook.com/groups/bydsealthailand