เปิดตัว Chery Fulwin A8L ล่าสุดคว้าตำแหน่งรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่วิ่งได้ไกลที่สุดในโลก ด้วยระยะทาง 2,369.915 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 100% และน้ำมันเต็มถัง ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในงานเปิดตัวเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา
การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงสองเดือนหลังจากที่ SAIC Roewe D7 DMH ได้ครองตำแหน่งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงแรงผลักดันของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในจีนที่ต้องการพัฒนารถยนต์ PHEV ให้มีระยะทางวิ่งไกลขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ BYD เปิดตัวเทคโนโลยี DM 5.0
Chery Fulwin A8L มีให้เลือก 5 รุ่น ราคาอยู่ระหว่าง 109,900 – 149,900 หยวน (ประมาณ 528,000 – 719,000 บาท) และยังมีส่วนลดทันทีอีก 10,000 หยวน (ประมาณ 48,000 บาท) สำหรับทุกรุ่น เฉพาะช่วงเวลาเปิดตัวนี้เท่านั้น โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- รุ่น Standard Edition ระยะทาง 70 กม. ราคา 109,900 หยวน (ประมาณ 528,000 บาท)
- รุ่น Comfort Edition ระยะทาง 70 กม. ราคา 119,900 หยวน (ประมาณ 576,000 บาท)
- รุ่น Standard Edition ระยะทาง 145 กม. ราคา 129,900 หยวน (ประมาณ 624,000 บาท)
- รุ่น Comfort Edition ระยะทาง 145 กม. ราคา 139,900 หยวน (ประมาณ 672,000 บาท)
- รุ่น Luxury Edition ระยะทาง 145 กม. ราคา 149,900 หยวน (ประมาณ 719,000 บาท)
Chery Fulwin A8L ถือเป็นรุ่นที่ 3 ของตระกูล Fulwin A8 ที่เปิดตัวในปีนี้ โดยมีต้นกำเนิดมาจาก Chery Arrizo 8 รถยนต์สันดาปภายใน (ICE) ที่วางจำหน่ายในปี 2565 ต่อมาในช่วงต้นปี 2567 ได้เปิดตัว Chery Fulwin A8 รุ่น PHEV และในเดือนเมษายน ก็ได้เปิดตัว Voyage Edition ซึ่งก่อนหน้านี้รู้จักกันในชื่อ A8 Pro โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ระยะขับขี่ 2,000 กิโลเมตร แต่ก็ยังไม่ถึงเป้าหมายในการทดสอบ จนกระทั่งมาถึง A8L ที่ Chery สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ในที่สุด
Fulwin A8L ใหม่นี้ มีรูปลักษณ์ที่ใกล้เคียงกับ A8 รุ่นดั้งเดิมมากกว่า Voyage Edition ซึ่งมีกระจังหน้าแบบปิด อย่างไรก็ตาม ขนาดตัวถังมีความแตกต่างเล็กน้อย โดยมีความยาวเพิ่มขึ้น 10 มม. โดยมีขนาด 4790/1843/1487 มม. และระยะฐานล้อ 2790 มม.
ด้านหน้าของ Chery Fulwin A8L มาพร้อมกระจังหน้ารูปหลายเหลี่ยมลายรังผึ้ง ซึ่งเป็นตำแหน่งของป้ายทะเบียนและโลโก้ Chery ด้านข้างมีช่องดักอากาศ ส่วนด้านข้างของตัวรถดูเหมือนจะคล้ายรุ่นก่อนหน้านี้ ในขณะที่ชุดไฟท้ายได้รับการออกแบบใหม่ โดยมีคำว่า Fulwin แทนที่ Chery เช่นเดียวกับใน A8 ส่วนล่างของด้านท้ายมีการออกแบบที่เรียบง่ายกว่า A8 รุ่นก่อนหน้า
Chery Fulwin A8L: ขุมพลังไฮบริด C-DM 5.0 สองทางเลือก ประสิทธิภาพเหนือชั้น
Chery พัฒนาขุมพลังไฮบริด C-DM สู่เจเนอเรชั่นใหม่ C-DM 5.0 โดยมีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น คือ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบธรรมดา และเครื่องยนต์ 1.5T เทอร์โบชาร์จ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย
รุ่นประหยัด 1.5
Chery Fulwin A8L สองรุ่นเริ่มต้น ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 75 kW แรงบิดสูงสุด 125 Nm ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 150 kW แรงบิด 310 Nm ให้กำลังรวม 225 kW แรงบิด 435 Nm
แบตเตอรี่ขนาด 9.53 kWh วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุด 70 กิโลเมตร (CLTC)
รุ่นแรง 1.5T
Chery Fulwin A8L รุ่นท็อป ใช้เครื่องยนต์ 1.5T เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 115 kW แรงบิดสูงสุด 220 Nm ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 150 kW แรงบิด 310 Nm ให้กำลังรวม 265 kW แรงบิด 530 Nm
แบตเตอรี่ขนาด 18.67 kWh วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุด 145 กิโลเมตร (CLTC) ระยะทางวิ่งรวมกว่า 2,100 กิโลเมตร
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 4.2 ลิตร/100 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTC) หรือ 23.81 km/L
รองรับการชาร์จเร็ว ชาร์จจาก 30% – 80% ใน 19 นาที
สมรรถนะ เทียบชั้น Audi 7L
Chery เผยข้อมูลเปรียบเทียบ Fulwin A8L กับ Audi 7L ซึ่งเป็นรถยนต์ระดับหรู ขนาดใหญ่กว่า และราคาแพงกว่า แต่ Fulwin A8L กลับมีกำลังและแรงบิดที่เหนือกว่า แถมยังทำความเร็วสูงสุดได้ใกล้เคียงกัน คือ 205 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบกับ Audi 7L ที่ 208 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมอัตราเร่ง 0-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียง 3.4 วินาที และวิ่งด้วยความเร็ว 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้นานตลอด 1 ชั่วโมง โดยไม่ผ่อนคันเร่ง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเหนือรถยนต์ PHEV และ EREV ทั่วไป
ภายในห้องโดยสาร
แม้ว่าการตกแต่งภายในส่วนใหญ่จะยังคงเหมือนกับ Chery Fulwin A8 รุ่นก่อนหน้า แต่ก็มีการปรับปรุงใหม่ในส่วนของแผงหน้าปัดและระบบควบคุม โดยรุ่นก่อนหน้าใช้หน้าจอคู่แบบรวม ในขณะที่ A8L มีหน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบลอยขนาด 15.6 นิ้ว และแผงหน้าปัด LCD ขนาด 10.25 นิ้วแยกต่างหาก ระบบต่างๆ ของรถควบคุมด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155
ตำแหน่งของคันเกียร์ ถูกย้ายจากคอนโซลกลางไปอยู่ที่ก้านพวงมาลัย ในขณะที่รูปทรงพื้นฐานของพวงมาลัยยังคงเดิม แต่ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย และยังมีโลโก้ Chery บนพวงมาลัยอีกด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ เบาะนั่งปรับไฟฟ้า พร้อมระบบทำความร้อนและระบายอากาศ กุญแจบลูทูธ ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย 50W มุมมองแชสซีแบบโปร่งใส 540 องศา ถุงลมนิรภัย 10 จุด และระบบเสียงจาก Sony 8 ลำโพง (เป็นอุปกรณ์เสริม) นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ L2+ พร้อมฟังก์ชันต่างๆ เช่น การนับถอยหลังสัญญาณไฟจราจร
สถิติ Guinness World Record
รายละเอียดทั้งหมดของสถิติ Guinness World Record ยังไม่มีการเปิดเผย แต่ในการทดสอบ Hainan Island Challenge รถสามารถทำระยะทางเฉลี่ยได้ 2,291.72 กิโลเมตร ซึ่งเทียบเท่ากับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 37.59 km/L
ติดตามเราได้อีกหนึ่งช่องทาง Facebook
สำหรับเพื่อนๆที่มองหาประกันภัยสำหรับรถไฟฟ้า
อย่าพลาด! ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับประกันภัยที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับรถไฟฟ้าของคุณ!
Inbox มาคุยกันได้เลย!
ทางไลน์ https://bit.ly/4f3mkTv
ทางเฟสบุ๊กค์ www.facebook.com/Unlimit.th